เลือกรองเท้าวิ่ง แบบมือโปร ดีต่อใจ ใส่แล้วไม่มีเจ็บ

อีกหนึ่งเทรนด์ออกกำลังกายดูแลสุขภาพสุดฮิตที่มาแรงอีกอย่างหนึ่งคงหนีไม่พ้น การวิ่งออกกำลังกาย ซึ่งการวิ่งที่ดีนั้น จุดเริ่มต้นต้องมาจากรองเท้า หากมีรองเท้าที่ดีก็ทำให้ประสิทธิภาพการวิ่งของคุณนั้นเพิ่มสูงขึ้นไปด้วย แต่หากได้รองเท้าที่ไม่เหมาะสม ก็อาจทำให้คุณเกิดอาการบาดเจ็บได้ในระยะยาว แต่จะเลือกรองเท้าอย่างไรให้ตอบโจทย์ ปลอดภัย วันนี้ Always Dry มีคำตอบ!

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป และ รองเท้า

เลือกรองเท้าให้ถูกจุดประสงค์และการใช้งาน
อย่างแรกก่อนการเลือกซื้อรองเท้าวิ่งนั้น ต้องคำนึงถึงจุดประสงค์ของการใช้งาน ว่าคุณจะซื้อรองเท้าไปวิ่งสำหรับการวิ่งประเภทไหน? เพราะรองเท้าวิ่งแต่ละชนิดนั้นถูกผลิตให้มีความแตกต่างกันออกไป เช่น การวิ่งในยิมทางเรียบ, การวิ่งเพื่อสุขภาพ, การวิ่งมาราธอน, วิ่งขึ้นเนิน ฯลฯ เมื่อรู้ถึงจุดประสงค์แล้วก็สามารถเลือกซื้อรองเท้าที่เข้ากับการใช้งานมากที่สุด ซึ่งรองเท้าวิ่งแบบเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้

1. Motion control running shoes : รองเท้าวิ่งที่ออกแบบมาเพื่อดูดซับแรงกระแทกของการวิ่งลักษณะ Overpronation และชะลอการเคลื่อนที่ของกล้ามเนื้อเท้าให้ช้าลง เป็นรองเท้าที่มีความทนทานสูงและมีน้ำหนักมากกว่าแบบอื่น
2. Cushioned running shoes : รองเท้าวิ่งประเภทนี้เหมาะสำหรับนักวิ่งที่มีลักษณะการวิ่งแบบ Neutral ซึ่งเป็นการวิ่งที่มีการกระแทกตรงบริเวณกลางฝ่าเท้า เพราะถูกออกแบบมาเพื่อดูดซับแรงกระแทกที่จะเกิดบริเวณข้อเท้าขณะวิ่ง
3. Stability running shoes : เป็นรองเท้าที่ถูกออกแบบมาโดยมีคุณสมบัติระหว่าง Motion control และ Cushioned คือ มีคุณสมบัติในการดูดซับแรงกระแทกและมีความทนทาน
4. Lightweight running shoes : เหมาะสำหรับนักวิ่งที่เน้นด้านความเร็ว เพราะมีน้ำหนักเบาและมีคุณสมบัติคล้ายกับ Stability ในเรื่องของการดูดซับแรงกระแทกแต่อาจไม่เท่า Cushioned

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป และ รองเท้า

 

เลือกรองเท้าให้เหมาะกับรูปเท้า
อีกหนึ่งกฎเหล็กสำคัญในการเลือกซื้อรองเท้านั้น ต้องเลือกรองเท้าวิ่งให้เหมาะสมกับรูปเท้า ขนาดรองเท้าต้องไม่บีบรัดเท้าเกินไป สามารถสวมใส่พอดีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ก่อนเลือกซื้อควรสวมใส่ให้กระชับพอดีกับเท้า ทดลองใส่และวิ่งเหยาะๆ เพื่อทำให้เห็นความแตกต่างมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงควรตรวจสอบขนาดและทดลองใส่ก่อนซื้อเสมอ

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป

รู้จักลักษณะการวิ่งของตัวเองก่อนซื้อรองเท้าทุกครั้ง

นักวิ่งควรสังเกตว่าตัวเองวิ่งในลักษณะแบบไหน? วิ่งแบบลงน้ำหนักลงส้นเท้า หรือวิ่งแบบลงปลายเท้า เพราะในการวิ่งของแต่ละคนนั้น จะมีลักษณะในการย่ำเท้าหรือการเคลื่อนที่ของเท้าขณะวิ่งที่แตกต่างกัน เรียกว่า Pronation ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นประเภทหลักได้ 4 ประเภทด้วยกัน คือ

1. Under pronation เป็นลักษณะการวิ่งที่ทิ้งน้ำหนักไล่จากบริเวณส้นเท้าด้านนอกไปจนถึงปลายเท้า
2. Neutral เป็นลักษณะการวิ่งที่ทิ้งน้ำหนักไล่จากส้นเท้าผ่านฝ่าเท้าไปจนถึงปลายเท้า
3. Overpronation เป็นลักษณะการวิ่งที่ทิ้งน้ำหนักไล่จากบริเวณส้นเท้าผ่านส้นเท้าด้านในจนถึงปลายเท้า
4. Severe Overpronation เป็นลักษณะการวิ่งแบบเดียวกับ Overpronation แต่จะมีการลงน้ำหนักเพื่อเร่งความเร็วและผ่อนน้ำหนัก เป็นจังหวะสั้นๆ การวิ่งลักษณะนี้ จึงเกิดแรงกระแทกมากกว่าแบบ Overpronation

เมื่อคุณสังเกตและรู้ลักษณะการวิ่ง การลงน้ำหนักของตัวเองแล้วก็สามารถเลือกซื้อรองเท้าวิ่งในแบบที่เหมาะสมกับสไตล์ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บและปัญหาสุขภาพในระยะยาว

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป และ รองเท้า

 

เลือกรองเท้าจากความสบาย ไม่ใช่เพราะแฟชั่น
รองเท้าวิ่งในปัจจุบันนั้น มีดีไซน์หลากหลายประเภท ทำให้หลากคนเลือกซื้อจากดีไซน์เป็นอันดับแรก ซึ่งหากคุณกำลังมองหารองเท้าวิ่งคู่กายคู่ใจ ควรเลือกรองเท้าจากความสบายขณะสวมใส่ ไม่ก่อให้เกิดความอึดอัด หรือก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บ เพราะหากเลือกใส่รองเท้าวิ่งที่อึดอัด ไม่สบายแล้วอาจก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บจากการวิ่งได้

ในภาพอาจจะมี รองเท้า

 

เตรียมถุงเท้าที่ใส่วิ่งจริงๆไปด้วย
การใส่ถุงเท้าขณะวิ่งนั้นนอกจากจะเป็นการสร้างสุขอนามัยที่ดีแล้ว ถุงเท้ายังช่วยลดอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดจากการเสียดสีได้ด้วย ดังนั้นควรนำถุงเท้าสำหรับใส่วิ่งไปด้วยก่อนการเลือกซื้อรองเท้าวิ่งทุกครั้ง เพราะหากคุณเลือกลองรองเท้าวิ่งเท้าเปล่า หรือใส่ถุงเท้าชนิดอื่นที่ไม่ใช่ถุงเท้าวิ่งอาจทำให้เกิดการกะขนาดผิดพลาดได้ ดังนั้น การนำถุงเท้าที่ใช้จริงไปลองสวมด้วยขณะลองรองเท้าใหม่จะทำให้ปัญหารองเท้าไม่พอดีเมื่อใช้งานจริงหมดไป ขึ้นขณะสวมและไม่สวมถุงเท้า ดังนั้น การนำถุงเท้าที่ใช้จริงไปลองสวมด้วยขณะลองรองเท้าใหม่จะทำให้ปัญหารองเท้าไม่พอดีเมื่อใช้งานจริงหมดไป และลองทดลองใส่แล้ววิ่งอยู่กับที่เพื่อทดลอง

ในภาพอาจจะมี ข้อความ

 

เลือกซื้อรองเท้าวิ่งตอนเย็น
หลายๆคนอาจยังไม่รู้ว่าขนาดเท้าของเราตอนกลางวันและตอนเย็นนั้นมีขนาดไม่เท่ากัน ขนาดเท้าในตอนเช้าจะมีขนาดเล็กกว่าตอนเย็น โดยเฉพาะตอนวิ่งเท้าเราก็จะขยายขึ้นไปอีก ดังนั้นหากคุณเลือกซื้อรองเท้าวิ่งในตอนเช้า แล้วนำมาสวมใส่เพื่อวิ่งในตอนเย็นแต่รู้สึกว่าคับหรือไม่พอดีก็ไม่ต้องตกใจไป นั่นก็เพราะการขยายของรูปเท้านั้นเอง ดังนั้นการเลือกซื้อรองเท้าวิ่งก็ควรเลือกซื้อในช่วงเย็นจะดีที่สุด เพื่อป้องกันขนาดที่คลาดเคลื่อนไป

ในภาพอาจจะมี รองเท้า และ สถานที่กลางแจ้ง

 

เลือกซื้อรองเท้าวิ่งที่ได้มาตรฐาน
การวิ่งที่ดีนั้นมักเริ่มจากรองเท้า การมีรองเท้าวิ่งคู่ใจดีๆสักคู่ และได้มาตรฐาน จะทำให้การวิ่งของคุณมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และไม่ก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งก่อนตัดสินใจเลือกซื้อรองเท้าวิ่งสักคู่ ควรคำนึงถึงวัสดุของตัวรองเท้า การผลิตที่ผ่านมาตรฐาน จากแบรนด์ที่ได้รับความเชื่อถือและที่สำคัญเป็นรองเท้าที่ออกแบบมาเพื่อการวิ่งโดยเฉพาะ

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

ดูแลรองเท้าให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ

หลังจากได้รองเท้าวิ่งคู่ใจมาแล้ว การดูแลรองเท้าก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรหลีกเลี่ยง เพราะหากรองเท้าไม่พร้อมต่อการใช้งาน ก็อาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาได้ ซึ่งสิ่งที่ไม่ควรทำต่อรองเท้าวิ่งนั้นได้แก่
- ห้ามถอดรองเท้า หรือวิ่งโดยการเหยียบส้นรองเท้าโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ส้นรองเท้าเสียหายและผิดรูปทรงได้
- ควรใส่รองเท้าวิ่งเพื่อไปวิ่งเท่านั้น ห้ามไปเล่นกีฬาอย่างอื่น เพราะอาจทำให้รองเท้าเสียหายและเกิดอาการบาดเจ็บตามมาได้
- ควรปล่อยรองเท้าทิ้งไว้ 24 ชม. หลังวิ่ง จะได้ฟื้นตัวอยู่ในสภาพเดิม
- ไม่วิ่งในตอนที่รองเท้าเปียก เพราะทำให้ประสิทธิภาพในการรองรับแรงกระแทกของส่วน Midsole ลดน้อยลงประมาณ 40-50% ก่อให้เกิดอันตราย
- ทำความสะอาดรองเท้าวิ่งทั้งภายในและภายนอกเพื่อสุขลักษณะที่ดี ไม่ควรปล่อยให้รองเท้าส่งกลิ่นเหม็นอับ หรือเลอะคราบสกปรก เพราะจะเป็นแหล่งก่อเกิดเชื้อโรคและแบคทีเรยว ส่งผลต่อสุขภาพเท้าได้
- ควรใช้ผลิตภัณฑ์ในการดูแลทำความสะอาดที่ผลิตมาเพื่อรองเท้าโดยเฉพาะ โดยเฉพาะ Always Dry ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดรองเท้าทั้งภายในและภายนอก ซึ่งผลิตจากเทคโนโลยีชั้นสูงจากประเทศเบลเยี่ยม นอกจากจะช่วยทำความสะอาดแล้ว ยังช่วยฟื้นฟู และปกป้องรองเท้าจากสิ่งสกปรก ให้พร้อมใช้งานได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด