FOOTWEAR MATERIALS รู้จักวัสดุบนรองเท้าเเบบมือโปร

 

รองเท้าตามท้องตลาดมีหลากหลายดีไซน์ ส่วนวัสดุที่ใช้ทำรองเท้าก็มีหลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานประกอบกับความหลงใหลของผู้สวมใส่ แต่คุณรู้ไหมว่ารองเท้าแต่ละชนิดนั้น จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาที่แตกต่างกันออกไป วันนี้ Always Dry ขอนำผู้หลงใหลใน Shoes Lover ไปรู้จักวัสดุที่ใช้ทำรองเท้า พร้อมบอกเคล็ดลับวิธีการดูแลรักษามาบอกกันครับ รับรองว่าอ่านจบปุ๊บเป็น Shoes Expert กันเลยทีเดียว

ในภาพอาจจะมี รองเท้า

 

1.นูบัค (Nubuck)
หลายคนสับสนระหว่างนูบัคและหนังกลับ เพราะดูเผินๆ แล้วเหมือนกันอย่างกับแกะ แต่จริงๆแล้วหนังสองชนิดนั้นมีความแตกต่างกัน หนังนูบัคเป็นหนังวัวส่วนที่มาจากบริเวณสะโพกที่ผ่านการขัดเพื่อให้หนังมีความนุ่มก่อนที่จะนำมาแปรรูปเป็นรองเท้า หนังนูบัคมีข้อดีในเรื่องของความทนทาน แต่อาจเกิดรอยได้ง่าย เมื่อใช้นูบัคไปสักระยะผิวจะเรียบและเงาขึ้น สีของหนังจะเข้ม ดูสวย เท่ คลาสสิกมากขึ้นทุกครั้งที่สวมใส่ ส่วนหนุ่มๆคนไหนที่หลงรักในรองเท้านูบัคก็สามารถยืดระยะเวลาของการใช้งานรองเท้านูบัคโดยการใช้ Always Dry Waterproof Spray มาใช้ฉีดให้ทั่วรองเท้า เพื่อให้สเปรย์เป็นเกราะป้องกันรองเท้าจากคราบฝุ่น คราบสกปรก น้ำ โคลน หรือสิ่งต่างๆ ที่คุณต้องเจอในชีวิตประจำวัน

 

ในภาพอาจจะมี รองเท้า

 

 

2.ไนลอน (Nilon)
ไนลอน เป็นชื่อเส้นใยทั่วไปที่สังเคราะห์จากโมเลกุลใหญ่ของอะไมด์ จับกันเป็นโซ่ยาว ซึ่งเป็นเส้นใยสังเคราะห์ที่เกิดจากกระบวนการทางปิโตรเคมี ผู้ค้นพบวิธีในการผลิตเส้นใยไนลอน คือ Wallac H. Carothers ตั้งแต่ปี 1928 ก่อนนู้น และหลังจากนั้นก็ได้เกิดการพัฒนาต่อเนื่องไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ และมาสู่แวดวงรองเท้านับแต่ปี 60’s ซึ่งรองเท้าไนลอนมีความพิเศษในเรื่องน้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี และมีราคาที่ไม่สูงมากนัก ส่วนการทำความสะอาดก็ง่าย เพราะคุณสามาถใช้ผลิตภัณฑ์ทุกตัวของ Always Dry กับรองเท้าไนลอนคู่โปรดของคุณได้เลยครับ

 

ในภาพอาจจะมี รองเท้า

 

3.ฝ้าย (Cotton Canvas)
ผ้าคอตตอนหรือผ้าฝ้ายเป็นเส้นใยที่ได้จากต้นฝ้าย มักจะปลูกในพื้นที่เขตร้อน ถูกนำมาใช้เป็นวัสดุในการทำรองเท้าอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะรองเท้าผ้าใบ ผ้าฝ้ายนั้นมีคุณสมบัติที่ดีหลากหลายด้าน เช่น น้ำหนักเบา ระบายความร้อนได้ดี สามารถซักและทำความสะอาดได้ง่าย มีความทนทานจึงถูกนำมาใช้เป็นรองเท้าผ้าใบ หากใครที่ชอบใส่รองเท้าผ้าใบแล้วมีไลฟ์สไตล์ลุยๆ อยากใส่แบบไม่กลัวเลอะ ก็สามารถใช้ Always Dry Waterproof Spray มาใช้ฉีดเพื่อป้องกันคราบสกปรก หรืออาจจะใช้ Ultra Cleaner Foam สำหรับทำความสะอาดรองเท้าให้ดูสะอาดเหมือนใหม่ เหมือนวันแรกที่สวมใส่

 

ในภาพอาจจะมี รองเท้า

 

4.วูล (wool)
วูลทำมาจากเส้นใยธรรมชาติที่ได้มาจากขนสัตว์ชนิดต่างๆ เหมาะกับอากาศเกือบทุกรูปแบบ แต่ส่วนมากมักจะนำมาใช้กับรองเท้าที่ให้ความอบอุ่นในรองเท้าคอลเลคชั่นหน้าหนาวเสียมากกว่า มีจุดเด่นอยู่ที่ความนุ่ม ให้ความอบอุ่น พร้อมทั้งระบายอากาศได้ดีแม้ว่าตัวผ้าจะหนา อย่างไรก็ตามแบรนด์รองเท้าชั้นนำมักจะไม่ใช้รองเท้าวูลมาผลิตรองเท้าที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงมากนัก แต่สำหรับใครที่ชอบใส่ผ้าวูลก็สามารถใช้ Always Dry Waterproof Spray มาฉีดได้เลยครับ เพราะตัวสเปรย์จะเข้าไปซึมลึกถึงเส้นใย เกาะติดทน ยาวนาน ป้องกันคราบสกปรกได้อย่างเยี่ยมยอด ทำให้สามารถป้องกันน้ำ คราบสกปรกได้ดี

 

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

 

 

5.Neoprene
ยางนีโอพรี เป็นยางสังเคราะห์ที่ผลิตโดยบริษัท ดูปองท์ในปี 1931 และได้ใช้กันอย่างแพร่หลายมากหลาย เพราะมีความยีดหยุ่นสูง มีประสิทธิภาพดีกว่ายางธรรมชาติในด้านความต้านทานต่ออุณหภูมิน้ำ น้ำหนักที่เบา ซึ่งช่วงแรกๆ ถูกนำไปใช้เป็นชุดนักประดาน้ำ แต่ต่อมาบริษัทรองเท้าอย่าง Nike ที่ได้ดีไซน์เนอร์อย่าง Tinker Hatfield หัวไส จับเอายางนีโอพรีมาเป็นส่วนหนึ่งของรองเท้า โดยถูกใช้กับรองเท้าในโมเดลที่ชื่อว่า Nike Air Huarache และได้การตอบรับที่ดีสมควร เพราะทำให้รองเท้านั้นมีน้ำหนักเบา ยืดหยุ่นสูง กันน้ำได้ดี ทำให้รองเท้ารุ่นหลังๆ จึงนำยางนีโอพรีมาใช้กันมากขึ้น แต่ข้อเสียของรองเท้าที่ทำจากวัสดุนีโอพรีมักจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง

 

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

 

6.Ripstop
ผ้าไนลอนที่ถูกนำมาถักทอเป็นตารางเล็กๆ หรือเรียกว่า Ripstop ด้วยการถักทอแบบริปสต็อป จึงทำให้ผ้าที่ได้มีน้ำหนักเบา กันน้ำ เหนียว ทนทานต่อการฉีกขาด จึงนิยมนำมาใช้ทางการทหาร และกิจกรรมการผจญภัย Adventure ต่างๆ ซึ่งผ้าริปสต็อป ถูกนำมาดัดแปลงใช้เป็นส่วนหนึ่งของรองเท้าตั้งแต่ปี 70’s แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร จนกระทั่งมาในปี 80’ ก็ได้รับความนิยมสูงขึ้นในกลุ่มรองเท้า Nike Nike’s ACG และ Adidas’ Adventure ที่มักจะเป็นรองเท้าสำหรับวิ่งและการใส่เพื่อ Trekking ซึ่งคุณสามารถใช้ Always Dry Wipes แบบพกพาเอาไปเช็ดถูทำความสะอาดได้ทุกที่ทุกเวลา เพราะพกพาง่าย เหมาะกับไลฟ์สไตล์ลุยๆ ของคนที่หลงใหลในรองเท้าริปสต็อป

 

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป และรองเท้า

 

7.Nike Flyknit 
วัสดุที่ประกอบด้วยเส้นใยน้ำหนักเบา แต่มีความแข็งแรง ที่ถักทอจนเป็นชิ้นเดียวกัน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ Nike เอามาใช้เพื่อช่วยให้เท้าของนักกีฬายึดติดกับส้นรองเท้าได้อย่างกระชับมั่นคง หรือรองรับกับรูปเท้ามากยิ่งขึ้น แถมยังมีดีไซน์ที่เท่ ไร้ตะเข็บ ยืดหยุ่น และระบายอากาศได้ดี เหมือนกับใส่ถุงเท้ายังไงอย่างนั้น ซึ่ง Nike ได้ใช้เทคโนโลยี Flyknit ในหลายโมเดล เช่น Air Max 1 Flyknit หรือ Nike Hyperdunk 2016 เป็นต้น อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีการใช้รองเท้าผ้าถักในอุตสาหกรรมการผลิตรองเท้าก็ไม่ได้มีแค่แบรนด์ Nike เท่านั้น แต่แบรนด์คู่แข่งสำคัญอย่าง Adidas ก็ใช้เทคโนโลยีนี้เช่นกันในชื่อ Primeknit ส่วนการทำความสะอาดก็สามารถใช้ผ้า Always Dry Ultra Wipes แบบพกพา หรือจะใช้ Always Dry waterproof เพื่อถนอมรองเท้าให้อยู่ในสภาพดี แบบยาวนาน

 

ในภาพอาจจะมี รองเท้า

 

8.รองเท้าหนัง (Leather)
รองเท้าหนังถือเป็นรองเท้าวัสดุแรกๆที่มนุษย์จับมาทำเป็นรองเท้ามากว่า 5,000 ปีที่แล้ว โดยหนังที่มนุษย์สมัยโบราณเลือกหยิบมาผลิตเป็นรองเท้านั้น ส่วนมากจะเป็นหนังกวางและหนังหมี ซึ่งสาเหตุหลักก็คือ เพื่อให้ความอบอุ่นแก่ผู้สวมใส่ จนมาถึงทุกวันนี้รองเท้าหนังก็ยังได้รับความนิยม แต่ได้ปรับเปลี่ยนมาใช้หนังวัวเป็นหลัก เพราะมีความแข็งแรงทนทาน คลาสสิก วินเทจ และดูเท่ทุกครั้งที่สวมใส่ ส่วนการดูแลรักษารองเท้าหนังวัวนั้นก็ต้องได้รับการดูแลมากเป็นพิเศษ เพราะหากใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมก็อาจทำให้วัสดุรองเท้าเกิดความเสียหายได้ หากเป็นรองเท้าหนังวัวที่ไม่มีการทำสีมาก็สามารถหยิบเอา Always Dry Waterproof มาใช้ช่วยทำความสะอาด ดูแล ปกป้องได้อย่างล้ำลึกและไม่ทำให้หนังเกิดความเสียหาย ส่วนหนุ่มคนไหนมีปัญหาใส่รองเท้าหนังแล้วมีกลิ่นอับ เพราะรองเท้าไม่ระบายอากาศ จนไม่กล้าถอดรองเท้าออกเพราะกลัวกลิ่นอับจะโชยจนทำให้ลุคของคุณดู Low profile ก็ใช้ Always Dry Fresh Spray หรือแบบ Capsule กำจัดกลิ่นอับเพิ่มกลิ่นหอมภายในรองเท้าได้เลย ใส่รองเท้าหนังคราวหน้ารับรองว่าดูฮิปสเตอร์ วินเทจ หล่อแนว แบบไม่ต้องกลัวเสียเซลฟ์!

 

ในภาพอาจจะมี รองเท้า

 

9.หนังกลับ (Suede)
หนังกลับนั้นมีหลายประเภท ทั้งหนังกลับที่ทำมาจากหนังสัตว์ ซึ่งจะมีเส้นใยสานกันอยู่แน่นอย่างเป็นธรรมชาติ มีความนุ่ม ฟู มีผิวสัมผัสที่ดี ทำให้หนังมีความราบเรียบสม่ำเสมอ ส่วนหนังกลับเทียม จะทำมาจากสารสังเคราะห์ หรือเรียกว่าหนัง PU แล้วนำมาผ่านกระบวนการขัดเพื่อให้เกิดขน ไม่นุ่มนวลเหมือนหนังกลับแท้ และดูไม่เป็นธรรมชาติ ข้อเสียของรองเท้าหนังกลับจะเลอะ สกปรกได้ง่าย จึงทำให้ผู้สวมใส่อาจต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ซึ่งการทำความสะอาดรองเท้าหนังกลับอาจใช้ใช้แปรง Always dry 3 sided brush แปรงสามหัวที่ออกแบบมาสำหรับรองเท้าโดยเฉพาะ ในกรณีรองเท้าหนังกลับควรใช้แปรงด้านขนนิ่ม ที่ทำมาจากขนหมูมาแปรงอย่างเบามือ เพื่อให้สิ่งสกปรกหลุดออกจากนั้นใช้ Always Dry Waterproof Spray สำหรับปกป้องรองเท้าจากน้ำและคราบสกปรกแค่นี้รองเท้าหนังกลับของคุณก็ดูใหม่น่าใส่อยู่เสมอ